บทความ
BBGI มุ่งสู่ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ และ ผู้สร้างสรรค์ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพรายใหญ่ของประเทศไทย มุ่งดำเนินธุรกิจที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน โดยนำแนวคิด ESG เป็นแนวทางพัฒนาองค์กร
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI เปิดเผยว่า BBGI ยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) มาเป็นแนวทางการพัฒนาองค์กร พร้อมดำเนินการอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เช่น การจัดทำโครงการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อผลักดันให้เกิดการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกในองค์กร
โดย BBGI ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ 11 องค์กร ก่อตั้งเครือข่าย Carbon Market Club เพื่อสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และใบรับรองสิทธิเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเพื่อมุ่งสู่สังคม Net Zero Emission หรือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และที่สำคัญ BBGI ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ในปี 2550 โดยมีเป้าหมายแรก คือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2030
ที่ผ่านมา BBGI ได้ดำเนินการในหลายโครงการ เช่น ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด รวมถึง บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) ที่มีการใช้น้ำที่ได้จากกระบวนการกลั่นแอลกอฮอล์ในกระบวนการผลิต มาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ (biogas) เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายในกระบวนการผลิตและจำหน่าย
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีแผนระยะสั้นในการลดสัดส่วนการใช้พลังงานไม่หมุนเวียนลง 5% ภายในปี 2568 เทียบปีฐาน 2563 ส่วนแผนระยะกลาง ตั้งเป้าลดสัดส่วนการใช้พลังงานไม่หมุนเวียลง 10% ภายในปี 2573 เทียบปีฐาน 2563 และระยะยาวลดสัดส่วนการใช้พลังงานไม่หมุนเวียนลง 15% ภายในปี 2593 เทียบปีฐาน 2563
โครงการที่ได้กำลังดำเนินการ ได้แก่ โครงการติดตั้งบ่อก๊าซชีวภาพของ บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด เพื่อผลิต และส่งก๊าซชีวภาพให้แก่ บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) สาขาบ่อพลอย โดยนำก๊าซชีวภาพที่ได้มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ซึ่งโครงการบ่อก๊าซชีวภาพนี้ เริ่มดำเนินการในไตรมาส 2/2565 มีกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ 84,000 ลูกบาศก์เมตรมาตรฐานต่อวัน
และโครงการเพื่อการจัดการขยะ ของเสีย และมลพิษ สะท้อนถึงความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร และความสามารถในการจัดการบริหารต้นทุนในการจำกัดขยะหรือของเสียจากกระบวนการธุรกิจ เช่น โครงการแปรรูปขี้เถ้าไม้สับทำอิฐตัวหนอน นำไปใช้ปูพื้นและจัดสวนภายในพื้นที่โรงงานและแจกจ่ายแก่ชุมชนรอบข้างที่ต้องการปรับปรุงพื้นที่ในชุมชน
รวมถึงโครงการสารปรับปรุงดิน ซึ่งบริษัทฯ จะนำน้ำสารปรับปรุงดินที่เหลือจากกระบวนการผลิต ส่งต่อให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้าอ้อย และหญ้าเนเปียเพื่อปลูกเป็นอาหารแก่ปศุสัตว์ เป็นการเพิ่มปริมาณสารอาหารอินทรีย์ในดิน ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี